วิถีทางการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่อง
ในยุคที่จารชนการบินแข่งขันด้านค่ามากขึ้นเรื่อยๆ กฎระเบียบการพกพา
กระเป๋าเดินทางก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะตระกูลการบินโลวคอสต์ที่ทุกหมวดเป็นเงินเป็นทอง ผู้โดยสารอาจถูกชาร์จเพิ่มถ้าต้องโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง บางครั้งการจัดสัมภาระให้ลงตัวในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง (carry-on) จึงอาจเหมาะสมกว่า ทั้งในแง่ความคล่องตัวกับค่าใช้จ่าย ทีมงานทำงานด้านไอที จึงจำเป็นต้องพกโน้ตบุ๊กติดตัวอยู่เสมอ เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ สปายชาร์จ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็หนักร่วม 2-3 กิโลกรัมได้ จากที่เคยแบกเป้ ก็ต้องเริ่มเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าล้อลากแบบหิ้วขึ้นเครื่องกันแอยู่ยืด นอกจากคำกล่าวสุขภาพเครื่องใช้หลังแล้ว ยังเอาสรรพสิ่งจุกจิกแบบเสื้อกันหนาว เสื้อสำรองยามกระเป๋าหาย และอุปกรณ์ส่วนตัวเล็กน้อยขึ้นเครื่องได้ไม่เบาขึ้น หลังจากลอดมาหลายทริป มีโอกาสเปลี่ยนกระเป๋ามาหลายใบ พวกเราเลยมุ่งหวังแชร์ประสบการณ์การคัดเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลากด้วยว่าขึ้นเครื่องมาฝากกันค่ะ ปัจจัยที่ควรพินิจมีด้วยกันหลายข้อ ดังนี้
- ‘สัดส่วน’ เป็นส่วนสำคัญอันดับหนึ่ง
ความจุสิ่งของกระเป๋าเดินทาง [pr]ที่ปลดปล่อยให้ถือขึ้นเครื่อง ขึ้นกับกฎสรรพสิ่งช้าการบินเท่านั้นละแห่ง เท่านั้นละจำพวกการบินกำหนดขนาดกระเป๋าไม่เท่ากัน พร้อมด้วยมีความเข้มแห้งแล้งของใช้การตรวจขนาดกระเป๋าแตกต่างกัน (โลว์คอสต์มักจะเข้มแห้งหน่อย) ตรงนี้สำคัญบานเบอะ เพราะสมมติว่ากระเป๋า carry-on ของใช้เราใหญ่เกินสัดส่วนที่ทางการบินกำหนด เราอาจต้องโหลดกระเป๋าใบนั้นแคงทน มิฉะนั้นจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง ได้เงินเสทั้งเงินพร้อมด้วยเวลา ดังนั้นควรเตรียมตัวข้อนี้ให้พร้อม ทางที่ดีแม้จะซื้อกระเป๋าใบใหม่ เราขอชี้ช่องทางให้พกพันธุ์วัดไปด้วย พร้อมกับอย่าลืมวัดให้ถึงตรงส่วนล้อด้วยนะคะ เพราะในใบสเปกกระเป๋าเดินทางอาจวัดเฉพาะตัวกระเป๋า ขนาดนั้นเวลาเดินทางจริง ช้าการบินอาจให้ทดสอบใส่กระเป๋าเข้ากรอบเหล็กสี่เหลี่ยม ซึ่งถ้ารวมล้อแล้วขนาดอาจเกินได้ วัดด้วยตัวเองชัวร์กว่า
- ‘น้ำหนัก’ ยิ่งเบายิ่งดี จุสิ่งได้เยอะขึ้น
เดี๋ยวนี้หลายทางการบินไม่ได้จำกัดแค่ “ความจุ” กระเป๋าเพียงแบบเดียว เพียงนั้นยังจำกัด “น้ำหนัก” สิ่งของกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องด้วย (มีเครื่องชั่งพร้อมสรรพ) กลุ่มการบินส่วนใหญ่ปลงให้ถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งลำพังแค่น้ำหนักเครื่องใช้ตัวกระเป๋าก็อาจกินไปเยอะแล้ว ในยุคสมัยนี้ กระเป๋ารุ่นใหม่ๆ ใช้เครื่องไม้เครื่องมือสังเคราะห์แบบใหม่ การออกแบบแนวใหม่ที่ช่วยให้น้ำหนักข้าวของตัวกระเป๋าเบาขึ้นสะพรั่ง กระเป๋าพวกนี้มักลงท้ายชื่อรุ่นว่า Lite ตรงนี้เราอาจตรวจสอบสเปกได้สร้างผ่านเว็บไซต์เครื่องใช้เพียงนั้นละแบรนด์ เพราะมีข่าวสารน้ำหนักให้พร้อมเลย
- ‘ล้อลาก’ เลือกสรรแบบไหนดี 2 หรือ 4 ล้อ
กระเป๋ายุคนี้มักมี “ล้อ” เพื่อให้เราเชี่ยวชาญลากกระเป๋าไปบนสนามบินอันกว้างใหญ่ได้ โดยไม่ต้องแบกเครื่องใช้กันหลังแอ่นทำนวัยอันควร ถ้าแยกประเภทกระเป๋าตามจำนวนล้อ เป็นได้แยกได้มลายวๆ ดังนี้
กระเป๋าหิ้ว แบบไม่มีล้อ เหมาะกับคนข้าวของเครื่องใช้น้อย น้ำหนักเบา เฉพาะปัจจุบันอาจหาคนใช้กระเป๋าแบบนี้ได้น้อยลง
กระเป๋าล้อลากแบบ 2 ล้อ เหมาะแก่การลากแบบเฉียง ขนาดนั้นอาจลากลำบากหน่อย เมื่อต้องเดินในที่คับแคบ ต้องหมุนกระเป๋าตามช่องทางที่มี ตัวอย่างเช่น การนำกระเป๋าขึ้นเครื่องที่ผู้โดยสารมักแออัดตามทางเดิน ข้อดีสิ่งกระเป๋าประเภดื้อี้คือวางบนพื้นแล้วไม่ไหลไปเอง โดยเฉพาะพื้นเอียง
กระเป๋าล้อลากแบบ 4 ล้อ กำลังได้รับความนิยมมากมายขึ้นเรื่อยๆ เพราะลากกระเป๋าง่ายกว่าแบบ 2 ล้อเหลือล้น ลื่นกว่า หมุนได้รอบทิศทาง เข็นจากด้านหลังได้ด้วย สะดวกต่อการเข็นในที่แคบมุมมองทางเดินบนเครื่องบิน เพียงนั้นข้อวางวายคือมีโอกาสไถลได้สูง ในบางสถานการณ์ เช่น ตอนขึ้นรถบัสจากเกตเพื่อขึ้นเครื่อง คนแน่นอาณาบริเวณน้อย อาจต้องใช้ขาหนีบเอาค่ะ – -’
นอกจากนี้ กระเป๋าแบบ 4 ล้อ ยังมีล้อคู่แบบที่เรียกว่า “Double-wheels” หรือแต่ละมุม มีล้อ 2 ล้อ (ให้นึกภาพรถบรรทุก) ช่วยให้การลากกระเป๋าสะดวกสบายโขนักขึ้นไปอีก เกี่ยวกับกระเป๋าสัดส่วนเล็กที่นำขึ้นเครื่องอาจจะยังไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ เท่านั้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ควรมีเป็นแง่มุมยิ่งค่ะ
- ‘ช่องสั่งสมสิ่งของภายใน’ ใครว่าไม่สำคัญ
ข้อช่องสั่งสมของใช้ภายในกระเป๋า เป็นอีกคำอธิบายที่คนมักมองข้าม เพียงนั้นจริงๆ ก็มีความสำคัญเพราะช่วยให้การจัดของเป็นระเบียบพร้อมกับการหยิบข้าวของสะดวกขึ้นอย่างยิ่ง กระเป๋าเดินทางทั่วไปัญหาักมีจารชนรัดด้วยว่าช่องความจุใหญ่ เพื่อป้องกันสัมภาระกระเด็นไปมาในกรณีสิ่งไม่เต็มกระเป๋า ส่วนที่ฝามักมีช่องซิปไว้ใส่สรรพสิ่งจุกจิก หยิบง่ายฉวยสะดวก สุดท้ายคือช่องรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่ด้านหน้ากระเป๋า ที่ช่วยให้เราหยิบสิ่งของบางอะไหล่ อย่าง นิตยสาร เอกสาร ได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดซิปใหญ่ของใช้กระเป๋าเลย ตัวแง่มุมด้านล่างคือกระเป๋าแบรนด์ TUMI ซึ่งโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น ตรงที่มีช่องเก็บของจำนวนเหลือแหล่ เป็นสัดเป็นส่วนดี ด้านในกระเป๋า TUMI รุ่น Int’l Expandable Carry-On นอกจากนี้ กระเป๋าบางรุ่นยังมีซิปเพราะด้วย “ขยายความจุกระเป๋า” เพื่อให้เรารอบรู้เพิ่มโซนบรรจุภายในได้อีกสักหน่อย ถ้ากระเป๋าไม่เต็มก็แล้วกันไป เพียงนั้นถ้ามีสรรพสิ่งเพิ่มเข้ามาแบบไม่คาดฝัน (ดั่ง มีของฝาก) ก็ยังเป็นได้เอาตัวรอดได้ในวันกลับ ตรงนี้ถือเป็นลูกเล่นเล็กๆ อีกประการหนึ่งที่อาจต้องมองด้วย
- ‘วัตถุกระเป๋า’ คัดให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือของใช้กระเป๋าแยกได้ 2 แบบกว้างๆ คือ แบบซอฟต์เคส (Soft Case) ส่วนใหญ่มักใช้ผ้าไนล่อน พร้อมทั้งแบบฮาร์ดเคส (Hard Case)
Tags : กระเป๋าเดินทาง,กระเป๋าเดินทาง